หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ

หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ (2 สินค้า)

แสดง  30 60 90
แสดง  30 60 90
หลวงพ่อเดิม เกิดเมื่อปี พ.ศ.2403 โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเนียม-นางภู่ ภู่มณี ตอนเด็กศึกษาที่วัดหนองโพธิ์ จนอายุครบบวชในปี พ.ศ.2423 จึงอุปสมบท ณ วัดเขาแก้ว อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ โดย หลวงพ่อแก้ว วัดอินทาราม (วัดใน) เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทธสโร” แล้วกลับมาจำพรรษาที่วัดหนองโพ ศึกษาพระธรรมวินัยและท่องพระคัมภีร์วินัย 

      นอกจากนี้ยังได้ศึกษาวิทยาคมกับอาจารย์อีกหลายท่านทั้งพระเกจิและฆราวาสจนแตกฉาน เป็นพระเกจิผู้เรืองวิทยาอาคมและมีเมตตาธรรมสูงส่งรูปหนึ่ง ทั้งยังเป็นพระนักพัฒนาสร้างถาวรวัตถุภายในวัด รวมทั้งก่อสร้างและปฏิสังขรณ์วัดต่างๆ ในจังหวัด เปรียบเสมือนร่มโพธิ์และร่มไทรที่พึ่งพาอาศัยของพุทธศาสนิกชนไม่เลือกชั้นวรรณะ เป็นที่เคารพศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั้งใกล้ไกล ที่พากันเข้าไปกราบนมัสการฝากตัวเป็นศิษย์ ขอให้รดนํ้ามนต์ และขอวัตถุมงคลไว้ติดตัวมากมาย ท่านมรณภาพในปี พ.ศ.2494 สิริอายุ 92 ปี 71 พรรษา

การศึกษา

     หลวงพ่อเดิมเมื่อเยาว์วัยก่อนอุปสมบทนั้น เนื่องจากท่านเป็นบุตรชายคนโตของบิดามารดา โอกาสที่จะได้เล่าเรียนอยู่วัดในสมัยอายุเยาว์วัยคงมีไม่มาก และไม่เคยได้ยินใครเล่าให้ฟังถึงการศึกษาของท่านในสมัยเยาว์วัย

อุปสมบท

     เมื่ออายุครบบวช ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดเขาแก้ว อำเภอพยุหะคีรี จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันอาทิตย์ แรม ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง โทศกตรงกับวันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๒๓ โดยมีหลวงพ่อแก้ว วัดอินทาราม (วัดใน) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเงิน (พระครูพยุหนุศาสน์) วัดพระปรางค์เหลือง ตำบลท่าน้ำอ้อย (มีชื่อเสียงทางรดน้ำมนต์) กับหลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล ตำบลสระทะเล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทฺธสโร” ครั้นอุปสมบทแล้วก็มาอยู่วัดหนองโพ ซึ่งหลวงพ่อก็ตั้งต้นศึกษาหาความรู้เป็นการใหญ่ หลวงพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า “ท่านมีนิสัยจะทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ คิดอะไรไม่ได้เป็นไม่ยอมหยุดคิด คิดมันไปจนออกจนเข้าใจได้ ดูอะไรไม่ได้เรื่องไม่ได้ความก็คิดค้นมันไปจนแตกฉาน” เมื่อมาจำพรรษาอยู่ในวัดหนองโพ ตลอดเวลา ๗ พรรษาแรก ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยและท่องคัมภีร์วินัย
 
การเรียนวิชาอาคม

     ในการมาอยู่วัดหนองโพพรรษาแรก เรียนวิชาอาคมกับนายพัน ชูพันธ์ ผู้ทรงวิทยาคุณอยู่ในบ้านหนองโพ ภายหลังนายพันถึงมรณกรรมแล้ว ไปศึกษาเล่าเรียนกับหลวงพ่อมี ณ วัดบ้านบน ตำบลม่วงหัก อำเภอพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ อยู่วัดบ้านบน ๒ พรรษา ต่อมาในพรรษาที่ ๙-๑๑ หลวงพ่อได้ไปเรียนทางวิปัสสนากับหลวงพ่อเงิน (พระครูพยุหนุศาสน์) วัดพระ ปรางค์เหลือง อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ซึ่งหลวงพ่อปฏิบัติจริงจังตลอดเวลา การเรียนวิชาอาคมของหลวงพ่อนั้น หลวงพ่อจะไปศึกษาเล่าเรียนมาจากสำนักของอาจารย์ใดบ้าง ไม่ทราบได้ตลอด เท่าที่ทราบก็มีการเรียนกับนายสาบ้าง เรียนกับหลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล หลวงพ่อวัดเขาหน่อ ต.บ้านแดน อ.บรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งปรากฏว่า หลวงพ่อทำวิชาขลัง จนเป็นที่เลื่องลือมากในเรื่องของความขลัง ซึ่งเป็นที่ปรากฏว่า ประชาชนทั้งชาวบ้านและข้าราชการทั้งทหารและพลเรือนทั้งในจังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดที่ใกล้เคียง ตลอดไปจนจังหวัดที่ห่างไกลบางจังหวัดพากันไปมอบตัวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อมากมาย ขอให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์บ้าง ขอวิชาอาคมบ้าง ขอแป้งขอผงบ้าง ขอน้ำมัน ตะกรุด ผ้าประเจียด จากหลวงพ่อ และที่แพร่หลายที่สุดก็คือ แหวนเงินหรือนิเกิล และผ้า รอยฝ่าเท้าหลวงพ่อ ผ้าประเจียด ซึ่งกิตติคุณในเรื่อง “วิชาขลัง” ของหลวงพ่อนั้นเป็นที่เลื่องลือกันแพร่หลายมานานแล้ว

การค้นคว้าทดลอง

     หลวงพ่อมีนิสัยชอบศึกษาและค้นคว้าทดลอง เช่น การสร้างเกวียนโยก และนอกจากค้นคว้าในทางประดิษฐ์ต่าง ๆแล้ว ตำรับตำราที่ครูบาอาจารย์ทำไว้แต่ก่อน ๆ บางอย่างหลวงพ่อก็นำมาทดลองด้วย เช่น วิชาเล่นแร่ คือทำแร่ตะกั่วให้เป็นเงิน และทำเงินให้เป็นทอง โดยได้ทดลองอยู่หลายปีจนถลุงเงินให้เป็นทองสำเร็จ แล้วลูกศิษย์ต่างก็พากันขอหลวงพ่อจึงนำไปขว้างทิ้งในสระน้ำ จากนั้นก็หยิบฆ้อนทุบเตา ทุบเบ้าถลุงแตกหมด แล้วก็เลิกเล่นเลิกทำตั้งแต่วันนั้น