ท้าวเวสสุวรรณ พญาครุฑ ญาท่านอ่อง ฐิตธัมโม

ท้าวเวสสุวรรณ พญาครุฑ ญาท่านอ่อง ฐิตธัมโม (1 สินค้า)

แสดง  30 60 90
แสดง  30 60 90

ประวัติหลวงปู่อ่อง


               พระครูสถิตธรรมมงคล (หลวงปู่อ่อง ฐิตธัมโม) เป็นชาวบ้านสะพือโดยกำเนิด เป็นหลานพระกรรมฐานแพง จันทสาโร หลวงปู่อ่อง ฐิตธัมโม เกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2471 โยมพ่อชื่อ พ่อคูณ โยมแม่ชื่อ แม่กอง ในสกุล อัจฉฤกษ์ มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 9 คน เด็กชายอ่อง อัจฉฤกษ์ ไม่สนใจเรื่องโลกทั้งปวง ศรัทธาเลื่อมใสในศีลาจารวัตรพระกรรมฐานแพง เรียนรู้ธรรมะตั้งแต่ยังเล็ก ครั้นอายุได้ 6 ขวบก็ขออนุญาตโยมพ่อ โยมแม่ เข้าเป็นศิษย์วัด อายุ 12 ปี บวชเป็นสามเณร โดยท่านพระครูพิศาลสังฆกิจ (หลวงปู่โทน กันตสีโล) เป็นผู้บวชให้ ต่อมาอายุครบ 20 ปี พ.ศ. 2491 ก็อุปสมบทเป็นพระโดยมีท่านพระครูพิริยกิจปัญญา “หลวงปู่ฤทธิ์ วัดสระกุศกร” เป็นพระอุปฒาย์ ได้นามว่า พระอ่อง ฐิตธัมโม

               หลวงปู่อ่อง ฐิตธัมโม เริ่มออกธุดงค์ตั้งแต่เป็นสามเณร 3-4 ปีจะกลับมาครั้งหนึ่ง หลังจากพระกรรมฐานแพง มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. 2509 เมื่อทำพิธีเกี่ยวกับเรื่องศพของพระกรรมฐานแพงเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่อ่อง ก็ออกจากวัดเทพสิงหาญเพื่อธุดงค์ตลอดมา

              วัดสิงหาญ เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง มีหลักฐานที่สามารถประมาณได้ว่าเคยมีพระท่านใดเป็นเจ้าอาวาสบ้าง ก็อาศัยหลักฐานอัฐิที่มีรายชื่อจารึกอยู่รอบพระเจดีย์ ดังนี้ ญาถ่านพู เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. 2350 – 2360 หลวงปู่อตมะ เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. 2365 – 2395 เจ้าปู่สมเด็จตัน เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. 2480 – 2494 หลวงปู่แพง พระกรรมฐานแพง เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. 24.. – 2509 มีหลายช่วงที่ขาดรายนามเจ้าอาวาส ในระหว่างนั้น มีพระครูพิศาลสังฆกิจ “หลวงปู่โทน กันตสีโล” ก็เป็นเจ้าอาวาสอยู่หลายปี สำหรับท่านพระครูสถิตธรรมมงคล “หลวงปู่อ่อง ฐิตธัมโม” เป็นเจ้าอาวาส มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบัน

              พระครูสถิตธรรมมงคล “หลวงปู่อ่อง ฐิตธัมโม” ไม่ได้แสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ใดๆ แต่เมื่อปี สองปีนี้ ในขณะทีหลวงปู่อ่อง นั่งรับแขกญาติโยมอยู่ที่วัดเทพสิงหาญ แต่ร่างหนึ่งนั่งสวดอภิธรรมศพอยู่ที่วัดทุ่งศรี เป็น 1 ใน 4 วัด ของบ้านสะพือ อีกเรื่องหนึ่งก็คือ เสกมวลสารวัตถุในถ้ำภูมะโรง ประเทศลาว เป็นแร่เหล็กไหลกายสิทธิ์ และขณะนั่งประกอบพิธีที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.พิบูลมังสาหาร ทั่วร่างกายเป็นประกายหลากสีเปล่งปลั่งอย่างน่าอัศจรรย์  แม้จะเป็นหนึ่งเดียวในสายพระอาจารย์ใหญ่ เจ้าปู่สมเด็จลุน ผู้มากด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ แต่ไม่เคยแสดงฤทธิ์เดชให้ใครเห็น ยกเว้นสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นเองในคราวจำเป็น หรือมีใครทดลอง เพราะได้รับคำแนะนำจากพระกรรมฐานแพง จันทสาโร ศิษย์ผู้ใกล้ชิดเจ้าปู่สมเด็จลุนที่จำได้ทุกตัวอักษร ว่า “หากไม่มีเหตุจำเป็นอย่าแสดงแผงฤทธิ์เดชใดๆ”