วัตถุมงคลรุ่นสมบัตินาคาศรีสุทโธ
พิธีบวงสรวงและเทวาภิเษก ณ ศาลเจ้าพ่อปู่ศรีสุทโธ วังนาคินทร์ คำชะโนด เกิดปรากฏการณ์อัศจรรย์เมฆเจ้าพ่อปู่นาคาธิบดีศรีสุทโธ เสด็จเหนือแม่น้ำโขง
พิธีปลุกเสกอธิษฐานจิต กลางแม่น้ำโขง ณ พระธาตุหล้าหนองอันศักดิ์สิทธิ์
พิธีบวงสรวงและเทวาภิเษกเจ้าพ่อปู่ศรีสุทโธ และท่านย่าศรีปทุมมา เปิดบาดาล 14 บาดาล ณ ศาลเจ้าปู่ศรีสุทโธ วัดศิริสุทโธ (คำชะโนด) อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
พิธีบวงสรวงริมฝังแม่น้ำโขง โดย.หลวงปู่นาค นาคินธ์ นาควโร วัดนิทัสนาลัย จ.อุดรธานี
พิธีบำเพ็ญกุศลให้ปู่ศรีสุทโธ และย่าศรีปทุมมา ณ พระธาตุหล้าหนอง
พิธีปลุกเสกอธิษฐานจิตพญานาคราชพ่อปู่นาคาธิบดีศรีสุทโธ ณ พระธาตุศักดิ์สิทธิ์กลางแม่น้ำโขงพระธาตุหล้าหนอง จ.หนองคาย ในวันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน 2560 เวลา 16.39 น.
รายนามพระเถราจารย์ นั่งปรกอธิษฐานจิต มีรายนามดังนี้
1.พระครูโพธิสารกิจ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี /เจ้าคณะตำบลในเมือง จ.หนองคาย
2.ดร.พระมหาพิชิต อตุลเวโท ผช.เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) จ.หนองคาย
3.พระครูปริยัติชยาภิวัฒน์ ผช.เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) จ.หนองคาย
4.พรครูวินัยธรบุญสงค์ สุจิตฺโต วัดโพธิ์ชัย (พระอารามหลวง) จ.หนองคาย
5.พระอัครเดช อาภาธโร วัดมีชัยท่า จ.หนองคาย
6.หลวงปู่นาค นาคินธ์ นาควโร วัดนิทัสนาลัย จ.อุดรธานี
7.พระพงษ์ วุฒิปัญโญ วัดศรีเมือง สปป.ลาว
นำไปเสกในพิธีบวงสรวงเปิดทรัพย์รับโชค ณ ศาลเจ้าปู่ศรีสุทธโธ และย่าศรีปทุมมา ณ วัดศิริสุทโธ (คำชะโนด) อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ในวันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน 2560
และจัดให้มีพิธีบำเพ็ญกุศลให้พ่อปู่ศรีสุทโธ และแม่ย่าศรีปทุมมา ณ พระธาตุหล้าหนอง และบวงสรวงพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ริมฝั่งแม่น้ำโขงและบวงสรวงโดย
หลวงปู่นาค นาคินธ์ นาควโร วัดนิทัสนาลัย จ.อุดรธานี และพิธีปลุกเสกอธิษฐานจิต โดยคณะสงฆ์วัดโพธิ์ชัย พระอารามหลวง จ.หนองคาย
ณ พระธาตุหล้าหนอง พระธาตุศักดิ์สิทธิ์กลางน้ำโขง ในวันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน 2560
เพื่อสมทบทุนสร้างสมเด็จโตฯ องค์ใหญ่ ประดิษฐาน ณ มูลนิธิพุทธคยา จ.เพชรบุรี
มูลนิธิพุทธคยา อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
ความเชื่อเรื่องพญานาคนั้น มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เพราะปรากฏอยู่ในวรรณคดีศาสนาเรื่องดังอย่าง ไตรภูมิพระร่วง ระบุไว้ว่า นาคมีลักษณะคล้ายงูใหญ่ แต่มีหงอน ดวงตาสีแดง เกล็ดหลายสี อาศัยอยู่บริเวณบาดาลใต้เขาหิมพานต์ กึ่งสัตว์ กึ่งเทพ มีพละกำลังและอิทธิฤทธิ์มาก คือ สามารถแปลงตนและจำแลงกายได้ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ถลชะ คือ นาคที่เกิดบนบก และ ชลชะ คือ นาคที่เกิดในน้ำทั้งนี้ ตามตำนานแล้ว พญานาคเป็นสัตว์เดรัจฉาน ที่ไม่สามารถบรรลุธรรมได้ จัดอยู่ในฝ่ายสุคติภูมิ สถิตอยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พำนักได้สูงสุดเพียงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ซึ่งถือว่าเป็นสวรรค์ชั้นต้นเท่านั้น
ต้นตระกูลของพญานาค
ตามตำนานเล่าขาน มีการกล่าวถึงรูปแบบของพญานาคที่แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะแบ่งประเภทของนาคออกเป็น 4 ตะกูลดังนี้
ตระกูลวิรูปักษ์ นาคที่มีผิวกายเป็นสีทอง เป็นนาคชั้นสูงสุด ถือกำเนิดแบบโอปปาติกะ คือ การเกิดขึ้นเอง แล้วโตเลย มากด้วยอิทธิฤทธิ์และบุญบารมี มักถูกจัดอยู่ในชั้นเทพ พำนักอาศัยอยู่ในทิพย์วิมาน ที่คอยปกครองพญานาคทั้งหมด ต้นตระกูลคือ "ท้าววิรูปักษ์" ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่มหาราชที่ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ด้านทิศตะวันตก พญานาคในตระกูลนี้ที่รู้จักกันดี อาทิ พญาสุวรรณนาคราช พญามุจลินท์นาคราช
ตระกูลเอราปถะ ตระกูลที่นาคมีผิวกายเป็นสีเขียว พญานาคชั้นสูง ถือกำเนิดแบบโอปปาติกะ หรือแบบอัณฑะชะ คือ กำเนิดจากฟองไข่ มีขนาดใหญ่โตใกล้เคียงกับพญานาคตระกูลสีทอง อาศัยอยู่เมืองบาดาลไม่ลึกมาก เป็นตระกูลที่พบได้มากที่สุดและใกล้ชิดมนุษย์มากที่สุด ชอบขึ้นมาเที่ยวบนโลกมนุษย์ จนเกิดเป็นตำนานรักมากมายกับเหล่ามนุษย์ และหากบำเพ็ญเพียรบารมีจนแกร่งกล้า ก็จะสามารถแผ่เศียรได้ถึง 9 เศียรได้ ก็สามารถขึ้นเป็นพญานาคชั้นปกครองได้เช่นกัน พญานาคในตระกูลนี้ที่รู้จักกันดี คือ พญาศรีสุทโธนาคราชแห่งวังนาคินทร์คำชะโนด
ตระกูลฉัพพยาปุตตะ ตระกูลนาคที่มีผิวกาย หรือเกล็ดเป็นสีรุ้ง ส่วนใหญ่ถือกำเนิดแบบชลาพุช คือกำเนิดจากครรภ์ อาศัยอยู่ในบาดาลหรือป่าลึก มีอิทธิฤทธิ์มาก แต่พบได้ยาก เพราะมักอาศัยอยู่ในที่ลึกลับ
ตระกูลกัณหาโคตะมะ ตระกูลนาคที่มีผิวกาย หรือเกล็ดเป็นสีดำนิล ถือกำเนิดแบบสังเสทชะ คือ เกิดจากเหงื่อไคล และสิ่งหมักหมมต่างๆ หรือ แบบอัณฑชะคือเกิดจากไข่ มักมีร่างกายกำยำบึกบึน มักจะมีหน้าที่เฝ้าสมบัติของเมืองบาดาล และแม้จะเกิดในตระกูลที่ต่ำกว่าตระกูลอื่น แต่หากหมั่นบำเพ็ญเพียรจนมากญาณบารมี ก็สามารถเป็นพญานาคชั้นปกครองได้เช่นกัน พญานาคในตระกูลนี้ที่รู้จักกันดี คือ องค์ดำแสนสิริจันทรานาคราช กษัตริย์นาคราชยอดนักรบแห่งเมืองบาดาล
จอมกษัตริย์นาคา 9 พระองค์ ผู้ปกครองแห่งพิภพบาดาล
พญาอนันตนาคราช เป็นเจ้าแห่งบาดาล ที่มี 1,000 เศียร เป็นราชาแห่งนาคทั้งปวงในเกษียรสมุทร มักจะแปลงร่างเป็นมนุษย์ รูปร่างสวยงาม ได้ตามเสด็จพระนารายณ์เสมอ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เศษะ หรือ เศษนาค เป็นพญานาคที่ขดร่างเป็นแท่นบัลลังก์ เพื่อให้พระนารายณ์บรรทม เป็นที่มาของ "พระนารายณ์บรรทมสินธุ์"
พญามุจลินท์นาคราช เป็นพญานาคมีอานุภาพมาก อาศัยอยู่ที่สระโบกขรณี ใกล้ต้นไม้มุจลินท์ สายพันธุ์ของพญามุจลินท์นาคราช คือ พญานาค 7 เศียร ซึ่งสืบสายพันธุ์มาจนถึงพญาศรีสัตตนาคราช (นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล) ซึ่งเชื่อว่าเป็นกษัตริย์แห่งพญานาคที่ฝั่งลาว
พญาภุชงค์นาคราช เป็นพญานาคที่มีผิวกายเป็นสีเทา มีหงอนและเศียรสีแดง มีเศียร 1 เศียร เป็นเจ้าวิสุทธิเทวา เป็นพญานาคราชประจำองค์พระศิวะเทพ หรือพระอิศวร อยู่ในตระกูลฉัพพะยา ปุตตะ
พญาศรีสุทโธนาคราช มีผิวกายสีเขียวมรกต มีเศียรสีทอง 9 เศียร ผู้ครองเมืองหนองกระแสทางฝั่งไทย และมีบริวาร 5,000 ตัว เป็นพญานาคที่ชอบรักษาศีลปฏิบัติธรรม และมาที่วัดพระธาตุพนมเสมอ เป็นเพื่อนกันกับพญาศรีสัตตนาคราช ที่ปกครองอยู่ทางฝั่งลาว ต่อมาเกิดการสู้รบกันนานถึง 7 ปี เรื่องการแบ่งอาหารไม่ยุติธรรม พระอินทร์จึงยุติสงครามด้วยการให้พญานาคทั้งสองสร้างแม่น้ำแข่งกัน พญาศรีสุทโธนาคราช จึงพาบริวารไพร่พลอพยพออกจากหนองกระแส สร้างแม่น้ำมุ่งไปทางทิศตะวันออก ของหนองกระแส เมื่อถึงตรงไหนที่เป็นภูเขาก็คดโค้งไปตามภูเขา หรืออาจจะลอดภูเขาบ้างตามความยากง่าย ในการสร้าง พญาศรีสุทโธนาคราชเป็นคนใจร้อน แม่น้ำนี้จึงคดโค้ง เรียกชื่อว่า "แม่น้ำโขง"
พญาศรีสัตตนาคราช มีความเชื่อว่าเป็นกษัตริย์แห่งพญานาคแม่น้ำโขงด้านฝั่งลาว มีเศียร 7 เศียร เป็นตระกูลพญานาคที่มีมาแต่ครั้งพุทธกาล มีความใกล้ชิดพระพุทธองค์และพระพุทธศาสนา ถือว่าเป็นต้นตระกูลแห่งพญานาคทั้งหมด มีบริวาร 5,000 ตัว เป็นพญานาคที่ชอบรักษาศีลปฏิบัติธรรม และมาที่วัดพระธาตุพนมเสมอ เป็นเพื่อนกันกับพญาศรีสุทโธนาคราชที่ปกครองอยู่ทางฝั่งไทย
พญาเพชรภัทรนาคราช หรือพญาเกล็ดแก้วนาคราช เป็นพญานาคที่มีผิวกายสีเงินเหมือนแก้ว มีหงอนและเศียรสีแดง มีเศียรเดียว เป็นลูกขององค์อนันตนาคราช
พญานาคดำแสนศิริจันทรานาคราช เป็นพญานาคาราชตระกูลกัณหาโคตมะองค์สีดำ มีผิวกายเป็นสีดำ อายุเก้าหมื่นปี
พญายัสมัญนาคราช หรือพญายัสมันรายะนาคราช เป็นพระโอรสในพญาอนันตนาคราช และเจ้านางสร้อยแสงคีรี ทรงเป็นสหายร่วมรบกับพญาเพชรภัทรนาคราช พญาภาคินทร์นาคราช และ พญานฤบดินทร์นาคราช พญายัสมันนาคราชเจ้านั้น มีเทพเจ้าแห่งสมุทรเป็นผู้ประสิทธิ์วิชาให้ จึงทำให้เป็นเอก ในด้านการรบ
พญาครรตะศรีเทวานาคราช พระองค์เป็นหนึ่งในกองทัพนาคาธิบดี ทรงงดงามปรีชา สามารถโดดเด่น สมเป็นชายชาตินักรบ ทรงเก่งกาจ มีปัญญาล้ำเลิศที่สุด กายของพระองค์มีสีทองล้วน พระเศียร 9 เศียร ร่างกายกำยำใหญ่โต พละกำลังมหาศาล ชอบการจำศีล วิเวก รักสันโดษ ยึดมั่นถือมั่นวาจาเป็นสัจจะ
คาถาบูชาพญานาค
นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ
"นะติตัง พญามะ นาคะ อภินัง นาคา สาธุโนภันเต ยะมะ ยะมะ"
นะโมตัสสะภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ 3 จบ
กายะวาจาจิตตัง อะหังวันทา
นาคาธิบดี ศรีสุทโธ
วิสุทธิเทวา ปูเชมิ ( 3 ครั้ง )
เครื่องไหว้บูชาพญานาค
1. ถวายน้ำ
2. ดอกไม้ หมากพลู หรือจะไหว้ โดยไม่ต้องใช้ธูป และไม่ถวายของใดก็ได้ ที่สำคัญ คือให้บูชาโดยใช้ภาวนาคาถาและตั้งจิตให้มั่น มีศรัทธาเป็นสำคัญ
3. ดอกไม้ เช่น ดอกบัว, ดอกดาวเรือง, ดอกมะลิ
4. ผลไม้ เช่น มะพร้าว แก้วมังกร ทับทิม ส้ม กล้วย มะขาม แอปเปิล หรือผลไม้ตามฤดูกาล ที่เป็นมงคล
วิธีอธิษฐานขอพร
ตั้งจิตที่ตั้งมั่นศรัทธา อัญเชิญมาประสิทธิพระพรชัย ให้แก่ข้าพเจ้าในเวลาบัดนี้เถิด ขอความไม่ดีทั้งหลายจงพินาศสิ้นไป ขอความเป็นมงคลทั้งหลาย ความสวัสดีมีชัยทั้งหลาย จงมีแด่ตัวข้าพเจ้าและครอบครัว